วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บทถอดเทปสัมภาษณ์

บทสัมภาษณ์
ผู้อำนวยการ พงษ์ศักดิ์  
ถอดเทปโดย  อาจารย์อิทธิวัฒน์ รัตนพองบู่
1. ขอรบกวนให้ท่านเล่าประวัติการทำงานก่อนที่จะมาเป็นผู้อำนวยการ
                เริ่มต้นก็เป็นพัฒนากรอยู่ที่พิจิตร อำเภอเมือง จบปริญญาตรี มาต่อปริญญาโทที่ ม.เกษตร กลับไปเป็นนักวิชาการ สอบชิงทุนกรมวิเทศสหการไปอินเดีย กับ อินโดนีเซีย ไปอิสราเอล กลับมาก็มาเป็นพัฒนาการอำเภอ และมาเป็นผู้บริหารได้ทุนองค์กรท้องถิ่นไปดูงานที่อเมริกา พอกลับมาก็มาอยู่กำแพงเพชร เป็นหัวหน้าฝ่าย ต่อมากลับมาอยู่กรมและเป็น ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาทุนชุมชน
2. ณ. ตำแหน่งปัจจุบัน ท่านคิดว่าควรจะมีการจัดหลักสูตรอะไรเพิ่มเติมบ้าง
                การมองพัฒนาวิสัยทัศน์ การมองการทำงานเชิงยุทธ์ การจัดการยุทธ์ศาสตร์ การทำงานในภาวะที่ขาดแคลนบุคลากร ส่วนผู้บริหารควรต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ จุดอ่อนของบุคลากรระดับผู้บริหารคือ ขาดความรู้ ขาดการพัฒนาการใช้งานด้านไอที
3. ถ้าพูดถึงไอที ควรเน้นในเรื่องใด
                สามารถการออกแบบงานเองไดไหม เช่น โปรแกรมใช้งานเล็กๆ ในการนำเสนองาน การเชื่อมโยงงานบางชิ้น การใช้งานในข้อมูลในรูปแบบที่เป็นการสรุปผลได้ในเชิงวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอ อย่างผู้บริหารต้องการข้อมูล ว่าได้แก้ปัญหาความยากจนไปแล้วกี่คน ก็เป็นปัญหาในการสรุปข้อมูล ถ้าได้โปรแกรมไอทีที่สนองการช่วยงานได้ก็น่าจะดี ต้องนำเสนอแบบสรุปผลได้ทันที  อาจเป็นการสรุปหัวข้อในการใช้ข้อมูล ในการตัดสินใจและข้อมูลที่แปลง ออกมาเป็นนโยบายได้ทันที โดยลักษณะของการแยกฐานข้อมูล ในการจัดการสามารถสรุปและนำเสนอข้อมูล ออกมาในรูปรายงานได้ เป็นต้น  อย่างนี้เป็นสิ่งที่ต้องการ
4. ข้อมูลที่ต้องหาข้ามกระทรวงหรือข้ามหน่วยงานอื่น มีอย่างไรบ้าง
                ส่วนมากแล้วข้อมูลของเรามีค่อนข้างสมบูรณ์ จะมีบางส่วนเท่านั้นที่ไปขอข้อมูลหน่วยอื่น
                หลักสูตรควรอบรม มี ไอที การวิเคราะห์ ข้อมูลตัดสินใจ  การแก้ปัญหา การบริหารเวลา ทักษะการสอนงาน ทักษะงานการฝึกอบรม ทักษะการมอบหมายงาน ก็เป็นเรื่องจำเป็น ใช้ข้อมูลในการแปลงนโยบายมาวิเคราะห์สรุปได้อย่างรวดเร็ว
5. ถ้าขึ้นไปในระดับสูง ขึ้นไปจะมีการเตรียมตัว เพิ่มเติม ด้านใด
                มี เรื่องการจัดการควบคุมอารมณ์ของตนเอง  การมองในเชิงบวก มากขึ้น มีความคาดหวัง พอไม่สำเร็จก็เกิดความกดดัน ถ้าเป็นตัวผมเอง ความต้องการคือ ถ้าเป็นงานใหม่ เราจะเริ่มทำงานตรงนั้นในเวลาที่สั้นที่สุด อาจเป็นเรื่อง ทักษะการวางแผนงานเชิงกลยุทธ์ การวางแผนโครงการ และทักษะการเรียนรู้งานให้ได้และเร็ว การเรียนรู้ร่วมกับคนอื่นๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็น
6. ถ้ามองระดับผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าจะพัฒนาตนเอง ควรไปด้านใดถึงจะทำงานไปในทิศทางเดียวกันได้
                ขึ้นอยู่กับตัวผู้ปฏิบัติงานเอง วิเคราะห์ตนเองว่าต้องการพัฒนาตนเอง และพัฒนางานไปในด้านใด แต่ก็กรมมีวิชา ที่ให้เรียนเฉพาะตำแหน่งงานของตนเองให้เรียนและเลือกศึกษาอยู่แล้ว  ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล  และกรมก็มีทุนให้เรียนเพื่อพัฒนาตนเอง ในวิชาที่ตนเองสนใจ อยู่เช่นกัน แต่การเรียนควรจะเป็นเนื้องานที่เกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ บางคนก็ถนัดที่จะเรียนในการเป็นวิทยากรกระบวนการ บางท่านก็เลือกที่จะจัดทำสื่อในการฝึกอบรม แล้วก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้กันและกัน
7. ถ้ามองลักษณะการทำงาน ต้นแบบของพัฒนากรที่จะอยู่ได้ในยุคปัจจุบันแบบมืออาชีพที่จะอยู่ได้ในสภาพที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
                ควรเป็นนักจัดการในชุมชน ด้านข้อมูล การวางแผน การประยุกต์งานเข้ากับชุมชนได้ ทำให้เกิดกระบวนการ การมีส่วนร่วมในการทำงาน  พัฒนากรต้องมีความรู้หลากหลาย  และมีหลายบทบาทในการจัดการ
8. ทักษะด้านไหนบ้างที่ทำให้เขาเป็นนักจัดการที่ดี ได้
                ควร เรียนรู้งานกระบวนการของการพัฒนาชุมชนได้ทุก ๆ เรื่อง คล้ายๆ กับการเป็นผู้ประสานงาน ที่ดี  แต่ถ้าเป็นเรื่อง วิชาบัญชี การตลาด ก็คงไม่ต้องเชี่ยวชาญ เพียงแต่เชิญผู้รู้มาให้ความรู้ได้  ที่สำคัญ พัฒนากรสามารถนำทรัพยากรรอบตัวมาใช้ประโยชน์ได้อยู่แล้ว  คือการเป็นผู้บริหารจัดการในชุมชนได้ เราไม่สามารถเชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ เพราะงานเราเป็นลักษณะสหวิทยาการ โดยเนื้องานเราจะเป็นลักษณะนี้
ถ้าเป็นเรื่อง OTOP ถ้าเป็นความรู้ด้านการตลาด การขาย ควรรู้เพียง มีความรู้พื้นฐาน แต่สามารถนำผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เข้ามสนับสนุนงานได้ แต่ถ้าจัดกลุ่มให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  ให้เก่งเฉพาะด้าน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องมีกระบวนการคัดสรร
9.หลักสูตรปัจจุบันของสถาบันเหมาะสม ตรงกับความต้องการหรือยังสำหรับบุคลากร
                หลักสูตรมีการออกแบบมาให้เรียนเพื่อให้ผ่าน ได้รับการรับรอง เท่านั้น โดยเนื้อหาจะกำหนดเฉพาะในแต่ละตำแหน่งที่ต้องเรียนให้ครบ แต่ก็มีบางหลักสูตรที่สนใจเฉพาะตัว ส่วนตัว ผมชอบวิชาการคิดวิเคระห์ เรื่องการวิเคราะห์ความเสี่ยง  อย่างหลักสูตรพิชิตเส้นชัย  ก็ตามความชอบ ของตาละคน
11. หลักสูตร E-Learning เป็นหลักสูตรกลาง แบ่งเป็นตำแหน่งให้เรียนให้ครบตามหลักสูตรในระบบ
                เป็นหลักสูตรที่จัดให้เรียนเฉพาะตำแหน่งต้องเรียนให้ครบตามหลักสูตร โดยกำหนดเป็นรายวิชาเรียนให้ครบตามหลักสูตร เรียนตามรายวิชา รายชั่วโมงที่กำหนดให้เมื่อครบ แล้วก็จะได้วุฒิบัตร แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่าได้เรียนจริงแค่ไหน ยังไม่มีระบบการควบคุมว่าได้เรียนจริง หรือไม่อย่างไร
12. ถ้าอบรมแบบลักษณะเชิญวิทยากรมาบรรยายมีบ้างไหม
                เป็นหลักสูตร จะมีหลักสูตรการอบรมในการเตรียมตัวเลื่อนระดับสูงขึ้นไป ก็มีหลักสูตร นมส. ก็มีการเชิญวิทยากรภายนอก มาอบรมเป็นเวลา 3 อาทิตย์  
                ศูนย์ฝึกอบรมในภูมิภาคก็เป็นศูนย์บริการในพื้นที่ ที่ใกล้เคียงโดยแบ่งเป็นภาค ๆ ไป ศูนย์จะขึ้นอยู่กับสถาบัน มี 9 แห่งในต่างจังหวัด โดยสถาบันกำหนดหลักสูตรลงไปตามศูนย์ โดยสถาบันกำหนดหลักสูตรสำเร็จรูป ไปให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาอบรมตามศูนย์ที่อยู่ ต่างจังหวัด เช่น หลักสูตรพัฒนาผู้นำโดยให้ชาวบ้านเข้ามาอบรม เข้ามาเรียน เพื่อเป็นผู้นำความรู้แบบใหม่ ถ้าเป็นระดับเจ้าหน้าที่ก็มีการอบรมกันเอง  อีกส่วนหนึ่ง ถ้าเป็นงานเร่งด่วนก็ใช้ระบบไอที ถ่ายทอดออกไปสู่ภูมิภาค ให้มารับทราบนโยบายไปปฏิบัติ ในระดับพื้นที่
13. ถ้าเป็นเรื่องเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจชุมชน เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนากร ต้องเรียนรู้เพิ่มหรือไม่
                ความรู้มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ารูปแบบในการขับเคลื่อนอยู่ที่นโยบายของกรม จะเน้นหนักในด้านไหน โดยให้พื้นที่กำหนดว่าจะดำเนินการอย่างไร ถ้ากำหนดหมู่บ้านให้ดำเนินการแล้วพัฒนากรที่รับผิดชอบต้องจัดการดำเนินการหาความรู้ และหารูปแบบในการพัฒนาเอง โดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องขับเคลื่อนตามนโยบายตาม ระดับตัวชี้วัดของกรม
                จะมีการรวมกลุ่มในเอื้ออาทรกัน พัฒนากรต้องเรียนรู้โดยจากตัวชี้วัด คู่มือ และการพัฒนางานในพื้นที่ควบคู่กันไป โดยความรู้ก็จะมีการประยุกต์ บูรณาการ ในเรื่องศาสตร์ ประเภทสหวิทยา จะกำหนดองค์ความรู้เฉพาะด้านก็ไม่น่าจะตรงมากนัก เพราะต้องอาศัยศาสตร์หลายๆ ด้าน มาช่วยในการทำงานร่วมกัน

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หนังสือ งามพิศพิชิตโรค สมุนไพรใกล้ตัว

เป็นหนังสือที่ ที่รวบรวมความรู้ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ของสุภาพสตรีให้สวยอย่างมีสุขภาพแข็งแรง ตลอดจนการดูและรักษาโรคขั้นพื้นฐานของสตรี เช่น มะเร็งเต้านม  ประจำเดือนมาไม่ปกติ  มะเร็งปากมดลูก และการดูแลรักษาโรค สำหรับสตรี ด้วยสมุนไพรมากมาย
เนื้อหา อัดแน่นในเล่ม เป็นหนังสือแห่งยุคที่น่าสนใจ อีกเล่ม